20-22 ธันวาคม 2556
เรามาถึง บ้านอีต่อง ต.ปิล็อก อ.ทองผาภูมิ
จ.กาญจนบุรี กันตอนเช้ามืด
ตรงนี้เป็นจุดสุดท้ายที่รถยนต์เข้าถึงได้
ก่อนจะต้องเดินเท้าไปต่อ
อากาศหนาวจัดจนต้องขุดเสื้อทุกตัวในกระเป๋ามาใส่ซ้อนกัน
และเริ่มหวั่นว่าเสื้อผ้าที่เตรียมมาจะสู้ลมบนเขาคืนนี้ได้หรือเปล่า
และเริ่มหวั่นว่าเสื้อผ้าที่เตรียมมาจะสู้ลมบนเขาคืนนี้ได้หรือเปล่า
เจ้าหน้าที่อุทยานจะมานำทางขึ้นไปตอน 8-9 โมงเช้า
เลยมีเวลาเดินเล่นรอบๆ บ้านอีต่องก่อนสักพัก ที่นี่อยู่ติดชายแดนพม่า
มีของจากพม่าขายหลายอย่าง ชาวบ้านส่วนใหญ่พูดภาษาพม่ากันไฟแลบ
และทาแป้งทานาคาแบบสาวพม่าด้วย บ้านอีต่องเงียบสงบ อากาศดีมาก
เสียดายน่าจะมีโอกาสได้นอนค้างโฮมสเตย์แถวนี้สักคืน
ทางเดินขึ้นจุดกางเต็นท์ใช้เวลาประมาณ
3-4 ชั่วโมง
มีช่วงแดดร้อนบ้าง
แต่ส่วนใหญ่ก็ร่มรื่นไปตลอดทาง
มองไปรอบตัวเห็นภูเขาลิบๆ
สลับกับท้องฟ้าสีเข้ม
สดชื่นมากถึงมากที่สุด อากาศบนนี้ควรค่าแก่การหายใจจริงๆ
พอถึงจุดกางเต็นท์แล้วก็กินข้าวห่อ
พักนอนกลางวัน
สักบ่าย 3
ได้เวลาลุยต่อไปยังจุดวัดใจที่เรียกว่า
‘คมสันมีด’
ทางเดินระยะไม่ไกล แต่กว้างแค่พอให้สองเท้าเดินได้
พลาดนิดเดียวกลิ้งลงเขาไปถึงฝั่งพม่าแน่นอน
นี่แหละเหตุผลที่หลายคนเลือกมาผจญภัยในเขาช้างเผือก
ขอให้มาลองสักครั้งในชีวิต แล้วจะรู้ขนาดใจของตัวเอง
ระหว่างนั้นก็มีคิดนะว่าเราทำอะไรอยู่เนี่ย?
เสียเงิน 2,800 เพื่อเอาชีวิตมาทิ้งหรือเปล่าก็ไม่รู้
แต่ก็เอาวะ!
ครั้งหนึ่งในชีวิต กฎมีแค่ 2
ข้อเท่านั้น
คือเชื่อมั่นในตัวเองและห้ามพลาดในทุกกรณี
พอถึงจุดสูงสุดก็ฟินเลย
ดีแทคมีสัญญาณเน็ตเป็นรางวัล
เพราะตั้งแต่ถึงบ้านอีต่องจะมีแค่
AIS เท่านั้นที่ใช้เน็ตได้
ยกเว้นบนจุดสูงสุด 1,249
กิโลเมตรนี่แหละที่มีเน็ตของทุกค่าย
คนที่เอามือถือขึ้นมาต่างก็เช็คอิน
อัพรูป แชตกันสนุกสนาน
นั่งพักขาชื่นชมความสำเร็จของตัวเองกันสักพัก
ก็ต้องรีบลงก่อนพระอาทิตย์ตกดิน
ไม่งั้นจะอันตรายมาก
ขาลงใช้วิธีไถก้นลงเนิน
เร็วและปลอดภัยที่สุด
แต่กางเกงยีนส์ผ้ายืดที่ใส่มาก็สูญเสียความยืดไปตลอดกาล
ลงมาถึงจุดกางเต็นท์พอยิ่งมืดลมก็ยิ่งแรง
ตั้งแต่กางเต็นท์เที่ยวป่ามาเขาช้างเผือกนี่ลมแรงที่สุดแล้ว
รอบด้านมันโอบล้อมด้วยภูเขาใหญ่หลายลูกวางสับหว่างกัน
เป็นช่องลมชั้นดีให้ลมโหมเข้ามาจากทุกทิศทุกทาง
ผิงไฟก็ลำบากเพราะต้องคอยเปลี่ยนมุมหลบควันไปเรื่อยๆ
หนาวลมจนทนไม่ไหวเลยตัดใจมุดเข้าเต็นท์
ทั้งที่อยากดูดาวใจจะขาด
ดาวกระจายแน่นเต็มท้องฟ้ามาก
แต่กล้องไอโฟนมันถ่ายไว้ไม่ได้
พอเข้าเต็นท์ได้ก็จัดการสวมเสื้อทั้งหมดที่แบกมาทันที
เรามีไม้ตายอย่าง heatteach คอเต่าของยูนิโคล่ด้วย
ช่วยได้พอสมควร
แต่ท่อนล่างนี่สิลืมคิด ปรากฎว่าอุ่นแต่ท่อนบน
หนาวขาสุดๆ จนนอนหลับๆ ตื่นๆ
ตลอดทั้งคืน
เช้าตื่นมาก็ทยอยเก็บของและเดินลงเขา
ขากลับจะใช้เวลาน้อยกว่าขามาประมาณ
1 ชั่วโมง
รีบลงมาสระผมก่อนเลย
ทนไม่ได้กับความเน่า
เพราะถึงจะหนาวแต่ก็เหงื่อออกและฝุ่นเยอะพอสมควร
เป็นอีกทริปที่จะไม่มีวันลืมความเสียว
และความสวยของดาวในคืนนั้นไปตลอดชีวิต
--
ข้อมูลการเดินทาง
- เขาช้างเผือกจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวให้ขึ้นได้รอบละ
60 คน
- เปิดให้จองโควต้ากับอุทยานประมาณช่วงเริ่มเข้าหน้าหนาว
- เที่ยวได้เฉพาะช่วงหน้าหนาวประมาณ
พ.ย. - ก.พ.
- หน้าฝนปิดป่าเพราะอันตราย
หน้าร้อนก็ปิดเช่นกันเพราะมีไฟป่า
- ส่วนใหญ่โควต้าวันเสาร์
อาทิตย์ จะถูกบริษัททัวร์จองจนเต็มหมด
- ติดต่ออุทยานทองผาภูมิ 08-1382-0359, 034-532114
ข้อมูลทัวร์
- ดับเบิ้ลเอนจอยทัวร์
2,800 บาท
- ราคานี้รวมทุกอย่าง
มีรถตู้รับส่งจากกรุงเทพฯ มีประกันชีวิต
- ข้อดี:
อาหารมื้อที่ลงจากเขาเปรมมาก
อิ่มไม่อั้น รสชาติกลางๆ
มีจุดแวะพักก่อนขึ้นเขาเป็นของตัวเอง
สะดวกในการอาบน้ำและพักรอ
สต๊าฟดูแลโอเค ตามติดทุกระยะ
และคอยถ่ายรูปให้
- ข้อเสีย:
อาหารกลางวันตอนเดินขึ้นเขาค่อนข้างน้อย
ผู้ชายหลายคนไม่อิ่ม
อาหารเย็นมื้อบนเขาเหมือนจะไม่ค่อยพอเท่าไหร่
ขากลับรถตู้ส่งที่ปั๊มน้ำมัน
ที่ไม่ใช่จุดต่อรถอะไรทั้งนั้น หารถกลับบ้านยาก
แต่ตอนขาไปพอดีเรากับเพื่อนรวมกันได้
1 คันรถ เลยให้มารับที่คอนโด
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น